บริษัท แอคเคาท์มาย จำกัด
โทร 089-498-4816
โทร 089-498-4816
  • th

ธุรกิจ การเป็นนายหน้าในการค้าต่างประเทศ


ธุรกิจ การเป็นนายหน้าในการค้าต่างประเทศ

ธุรกิจ การเป็นนายหน้าในการค้าต่างประเทศ

การเป็นนายหน้าหรือโบรกเกอร์ในการค้าต่างประเทศไม่เพียงแค่เป็นการเชื่อมโยงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายจากต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางบัญชีและภาษีที่เกี่ยวข้องด้วย ในบทความนี้ เราจะพูดถึงด้านบัญชีและภาษีที่นายหน้าต้องระวังเมื่อดำเนินธุรกิจค้าระหว่างประเทศ

1. การบันทึกบัญชีของนายหน้าในการค้าระหว่างประเทศ

นายหน้าที่ทำธุรกิจค้าระหว่างประเทศต้องรู้จักวิธีการบันทึกบัญชีที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงการบันทึกการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นกับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ การบันทึกบัญชีในส่วนของนายหน้าอาจเกี่ยวข้องกับ:

• รายได้จากค่าคอมมิชชั่น: ค่าคอมมิชชั่นที่ได้รับจากการประสานงานระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายต้องบันทึกในบัญชีเป็นรายได้จากการให้บริการนายหน้า

• ค่าใช้จ่าย: ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน เช่น ค่าโฆษณา ค่าธรรมเนียมการขนส่ง หรือค่าใช้จ่ายในการติดต่อธุรกิจในต่างประเทศต้องถูกบันทึกและจัดทำรายงานเพื่อคำนวณกำไรหรือขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจ

2. การเสียภาษีของนายหน้าในการค้าระหว่างประเทศ

การเสียภาษีของนายหน้าการค้าต่างประเทศขึ้นอยู่กับประเภทของรายได้ที่นายหน้าได้รับ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:

• ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): นายหน้าจะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับบริการที่ได้รับจากการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยปกติแล้วการให้บริการนายหน้าจะถูกหักภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ของค่าบริการ (หากนายหน้ามีสถานะเป็นผู้ประกอบการที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม)

• ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา/ภาษีเงินได้นิติบุคคล:

    o สำหรับบุคคลธรรมดา: ค่าคอมมิชชั่นที่ได้รับจากการเป็นนายหน้าจะถือเป็นรายได้ส่วนบุคคล และจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราภาษีที่กฎหมายกำหนด (ซึ่งมีอัตราภาษีตั้งแต่ 5% ถึง 35% ขึ้นอยู่กับจำนวนรายได้)

    o สำหรับนิติบุคคล: หากนายหน้าคือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน การรายงานและเสียภาษีจะต้องใช้ระบบภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยบริษัทต้องยื่นแบบแสดงรายได้และเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลที่อัตรา 20% ของกำไรสุทธิ

• ภาษีธุรกิจเฉพาะ: สำหรับรายได้จากการซื้อขายสินค้าหรือบริการบางประเภทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เช่น การขายสินค้าโดยตรงหรือผ่านการประมูล บางครั้งอาจต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าแต่ละธุรกรรมมีข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องหรือไม่

3. การจัดการเอกสารและการรายงานภาษี

นายหน้าจะต้องจัดเตรียมเอกสารที่ใช้ในการคำนวณและรายงานภาษี เช่น:

• ใบกำกับภาษี (Tax Invoice): สำหรับการให้บริการ นายหน้าต้องออกใบกำกับภาษีให้แก่ลูกค้า เพื่อบันทึกการทำธุรกรรมในระบบบัญชี

• สัญญาการค้าระหว่างประเทศ: การทำสัญญาระหว่างนายหน้าและลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากจะช่วยในการคำนวณค่าคอมมิชชั่นและกำหนดเงื่อนไขการชำระเงิน

• รายงานภาษี: การยื่นภาษีในแต่ละประเภทต้องทำให้ครบถ้วนตามกำหนดเวลา เช่น การยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ทุกเดือนหรือรายไตรมาส และการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือเงินได้นิติบุคคลในปีถัดไป

4. การบริหารภาษีในกรณีที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ

หากนายหน้าเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจระหว่างประเทศที่มีการโอนเงินข้ามประเทศ อาจต้องพิจารณาภาษีที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินระหว่างประเทศ เช่น:

• ภาษีหัก ณ ที่จ่าย: หากนายหน้าทำธุรกิจในต่างประเทศและมีการรับเงินจากต่างประเทศ บางครั้งอาจต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากเงินที่ได้รับจากต่างประเทศ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างประเทศ

• Double Taxation Agreements (DTA): ในกรณีที่มีข้อตกลงการป้องกันการเก็บภาษีซ้ำระหว่างประเทศ การจ่ายภาษีในต่างประเทศอาจได้รับการยกเว้นหรือเครดิตภาษีจากประเทศต้นทาง

5. การวางแผนภาษี

การวางแผนภาษีเป็นสิ่งสำคัญในการเป็นนายหน้าการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากการบริหารจัดการภาษีอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ลดภาระภาษีโดยรวมและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน นายหน้าควรศึกษาและวางแผนภาษีที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศให้รอบคอบ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากการยกเว้นภาษีหรือสิทธิพิเศษที่มีในบางกรณี

อ้างอิง

• กรมสรรพากร, "คู่มือการเสียภาษีของนายหน้าและผู้ประกอบการ,"