บริษัท แอคเคาท์มาย จำกัด
โทร 089-498-4816
โทร 089-498-4816
  • th

การเสียภาษีของนักลงทุนในประเทศไทย


การเสียภาษีของนักลงทุนในประเทศไทย

การเสียภาษีของนักลงทุนในประเทศไทย

สิ่งที่ควรรู้

สำหรับนักลงทุนในประเทศไทย การทำความเข้าใจการเสียภาษีเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้การวางแผนการลงทุนมีประสิทธิภาพ และปฏิบัติตามข้อกำหนดทางภาษีอย่างถูกต้อง การเสียภาษีของนักลงทุนขึ้นอยู่กับประเภทของการลงทุน เช่น หุ้น พันธบัตร กองทุนรวม และอสังหาริมทรัพย์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ประเภทของภาษีสำหรับนักลงทุน

1. ภาษีจากการลงทุนในหุ้น

• ภาษีเงินปันผล: เงินปันผลที่ได้รับจากการถือหุ้นจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 10% นักลงทุนนิยมเลือกรับการหักภาษี ณ ที่จ่ายเพื่อไม่ต้องนำเงินปันผลไปรวมคำนวณในรายได้บุคคลธรรมดาอีก แต่สามารถเลือกวิธีรวมคำนวณเพื่อรับสิทธิหักค่าลดหย่อนได้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน

• กำไรจากการขายหุ้น: นักลงทุนในประเทศไทยไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรส่วนต่างราคาหุ้น (Capital Gains Tax) สำหรับหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่หากเป็นการขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ อาจมีข้อกำหนดภาษีเฉพาะตามลักษณะการขาย

2. ภาษีจากการลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้

• ดอกเบี้ยพันธบัตรหรือตราสารหนี้: รายได้จากดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลหรือตราสารหนี้เอกชน จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% หากเป็นผู้ที่ไม่มีรายได้อื่นหรืออยู่ในกลุ่มรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ภาษี ควรนำดอกเบี้ยไปรวมในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อให้ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีตามเกณฑ์รายได้ที่กำหนด

3. ภาษีจากการลงทุนในกองทุนรวม

• กองทุนรวมตราสารหนี้: หากนักลงทุนขายคืนหน่วยลงทุนกองทุนรวมตราสารหนี้ จะมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% ของผลตอบแทนจากการลงทุน แต่สามารถเลือกที่จะไม่รวมรายได้จากการขายคืนหน่วยลงทุนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้

• กองทุนรวมตราสารทุน: กำไรจากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุนไม่ต้องเสียภาษี Capital Gains และรายได้จากเงินปันผลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 10%

4. ภาษีจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

• ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์: รายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายได้บุคคลธรรมดา โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายได้ 30% หรือหักตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง

• กำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์: การขายอสังหาริมทรัพย์จะต้องเสียภาษีในลักษณะของภาษีธุรกิจเฉพาะ หากถือครองน้อยกว่า 5 ปี และค่าโอนต่าง ๆ แต่ถ้าเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ถือครองนานกว่า 5 ปี หรือตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด อาจได้รับการยกเว้นบางประการ

ข้อควรรู้สำหรับนักลงทุน

• วางแผนการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี: นักลงทุนนำค่าลดหย่อน เช่น การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มาใช้เพื่อช่วยลดภาระภาษีได้

• ตรวจสอบข้อมูลภาษีที่อัปเดต: เนื่องจากอัตราภาษีและข้อกำหนดอาจมีการเปลี่ยนแปลง นักลงทุนควรติดตามข่าวสารจากกรมสรรพากรหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ทราบถึงสิทธิลดหย่อนภาษีใหม่ ๆ ที่สามารถใช้ได้

การเข้าใจภาษีที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทนโดยรวม และทำให้การลงทุนเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย นักลงทุนควรศึกษาและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อวางแผนภาษีให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

อ้างอิง

• กรมสรรพากร, "คู่มือการเสียภาษีสำหรับนักลงทุน,"